การทาสีย้อมไม้เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะสามารถช่วยปกป้องและเพิ่มความสวยงามให้กับไม้ได้ แต่พี่ๆรู้ไหมคะ ถ้าเราทาสีย้อมผิดวิธี หรือเลือกสีย้อมไม้ผิดรุ่นผิดสูตร ก็สามารถทำให้เกิดผลเสียอย่างสีเหนียวได้ค่ะ
สาเหตุหลักๆที่ทำให้สีย้อมไม้เกิดเหนียวหลังทานั้น
1. ทาสีย้อมไม้หนาเกินไป
สีย้อมไม้จะแห้งตัวด้วยออกซิเจนจากอากาศ หากทาหนาเกินไปจะทำให้อากาศเข้าไม่ถึงฟีล์มสีชั้นล่าง แห้งแค่เฉพาะฟีล์มสีชั้นบนเท่านั้น
2. เลือกสีย้อมไม้ผิดประเภท
สีย้อมไม้ วูดสเตน (Wood Stain) เป็นสีย้อมไม้ใช้สำหรับทาย้อมไม้ ฟิล์มมีลักษณะโปร่งแสงและยืดหยุ่น เพื่อช่วยเรื่องการยืดหดตัวของไม้จากสภาวะอากาศ สามารถใช้ได้กับไม้ทุกส่วนของบ้านที่เป็นงานแนวตั้ง ทั้งผนังบ้าน รั้วบ้าน ระเบียง ระแนง บัว หรือเชิงชาย แต่ไม่เหมาะกับการนำมาทาพื้นไม้ หากต้องการนำมาทาพื้นจะต้องใช้ สีย้อมพื้นไม้ (Deck Stain) ที่ออกแบบมาเพื่อทนการเหยียบย่ำเฉพาะ ซึ่งการนำสีย้อมไม้ (งานแนวตั้ง) มาทาพื้นไม้ (งานแนวนอน) เป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของอาการพื้นเหนียว
3.ทาทับเที่ยวที่สองเร็วเกินไป
โดยทั่วไปในการทาสีย้อมไม้เที่ยวที่2และ3 จำเป็นต้องรอให้เที่ยวแรกแห้งดีก่อน ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 6-8 ชั่วโมง หรืออาจจะมากกว่านั้นขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ จึงจะสามารถทาเที่ยวต่อไปได้ หากเที่ยวแรกยังไม่แห้งแล้วทาเที่ยวที่สองเร็วเกินไป ก็มีโอกาสทำให้พื้นผิวเหนียวได้เช่นกัน
4. ผสมทินเนอร์ผิดรุ่น หรือผสมผิดอัตราส่วน
ก่อนการทาสีย้อมไม้ทุกครั้ง ส่วนใหญ่จำเป็นต้องคนให้เข้ากันเสมอ และสำหรับบางสินค้าจำเป็นต้องผสมทินเนอร์ เพื่อช่วยให้ทาง่ายขึ้น เพราะบางครั้งเมื่อเราทาในช่วงอากาศร้อน ๆ ก็อาจส่งผลให้เนื้อผลิตภัณฑ์เหนียวหนืดได้ ซึ่งการผสมทินเนอร์ต้องผสมตามรุ่น และอัตราส่วน ที่ระบุในแคตตาล็อกวิธีใช้งาน หรือที่ระบุไว้ข้างถังเท่านั้น เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่จะตามมา แล้วการที่ทาแล้วเหนียวก็เป็นหนึ่งในปัญหานั้น
วิธีการแก้ไขหากทาผิดไปแล้ว
1.ขัดสีเดิมออกให้หมดจนเห็นเนื้อไม้
2.เลือกย้อมไม้ให้ถูกกับงานที่เราจะใช้
ข้อควรรู้ : สีย้อมไม้มีหลายประเภท ทั้งสูตรน้ำมัน สูตรน้ำ หรือสูตรที่เป็นโพลียูรีเทน หากใช้สีเดิมเป็นสูตรน้ำมัน จะไม่สามารถต่องานหรือนำสูตรน้ำ หรือสูตรโพลียูรีเทนมาทาทับได้นะคะ
