การทาสีไม่ว่าจะเป็นงานช่างหรืองาน DIY สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้คือ “แปรงทาสี” ซึ่งหลายคนอาจมองว่าแค่แปรงอันเดียวก็ใช้ได้กับทุกอย่าง แต่ความจริงแล้ว แปรงทาสีมีหลากหลายประเภทค่ะ โดยเฉพาะแปรงทาสีน้ำมันและแปรงทาสีน้ำ ที่แต่ละแบบมีคุณสมบัติเฉพาะตัว ถ้าเลือกใช้ให้ถูกต้องกับประเภทสี งานทาสีของพี่ๆ จะออกมาสวย เรียบเนียน และประหยัดแรงมากขึ้นค่ะ
แปรงทาสีสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ ตามชนิดของสีที่ใช้ ได้แก่
1. แปรงทาสีน้ำ (Water-Based Paint Brush)
เหมาะสำหรับสีที่มีตัวทำละลายเป็นน้ำ เช่น สีน้ำอะคริลิก สีทาฝ้า สีรองพื้นปูนใหม่ ฯลฯ
ขนแปรง : มักทำจากขนสังเคราะห์ เช่น โพลีเอสเตอร์ หรือไนลอน ซึ่งไม่อุ้มน้ำเกินไป และช่วยให้สีไหลลื่นดี
จุดเด่น : ล้างทำความสะอาดง่าย ใช้น้ำเปล่าล้างได้ ไม่ต้องใช้น้ำมันหรือทินเนอร์
2. แปรงทาสีน้ำมัน (Oil-Based Paint Brush)
ใช้สำหรับสีที่มีตัวทำละลายเป็นน้ำมัน เช่น สีเคลือบ สีแลคเกอร์ สีสำหรับงานไม้หรือเหล็ก
ขนแปรง : มักใช้ขนสัตว์ธรรมชาติ เช่น ขนหมู หรือขนแปรงที่ออกแบบมาเฉพาะเพื่อทนต่อทินเนอร์
จุดเด่น : ขนแปรงสามารถเก็บสีได้นาน ให้การปาดสีที่นุ่มและเรียบเนียน เหมาะกับการเก็บรายละเอียด
ข้อควรระวัง : ต้องใช้น้ำมันสนหรือน้ำยาล้างแปรงในการทำความสะอาด
วิธีเลือกแปรงทาสีให้เหมาะกับงาน
• ดูที่ ชนิดของสี ที่จะใช้ก่อนว่าเป็นน้ำหรือน้ำมัน
• ถ้าเน้นทาพื้นที่กว้าง เลือกแปรงขนาดใหญ่ (2 นิ้วขึ้นไป) ถ้าทางานละเอียด เช่น ขอบประตู หน้าต่าง ให้ใช้แปรงขนาดเล็กหรือหัวเฉียง
• แปรงคุณภาพดี ขนแน่น ไม่หลุดง่าย ช่วยให้ทาสีได้เรียบและสวยมากกว่า
การเลือกแปรงทาสีให้เหมาะสมกับชนิดของสีไม่เพียงช่วยให้งานออกมาดี แต่ยังช่วยยืดอายุการใช้งานของแปรง และประหยัดแรงในการทำความสะอาดอีกด้วยค่ะ “แปรงดี งานเนียน” ก็เหมือนมีผู้ช่วยที่เก่งอยู่ในมือพี่ ๆ นั่นเองค่ะ หากพี่ ๆ ต้องการซื้อแปรงทาสีแวะมาที่โฮมเพ้นท์สิคะ เรามีแปรงทาสีหลากหลายแบบให้พี่ๆ ได้เลือกใช้ค่ะ และมีพนักงานยินดีให้บริการแนะนำแปรงให้เหมาะกับชนิดสีของพี่ๆ ด้วยค่ะ