การทาสี ถ้าเราอ่านจากแคตตาล็อกก็จะพบว่า ก่อนทาสี ผนังบ้านคุณต้องแห้ง สะอาด ปราศจากฝุ่น ปราศจากความชื้น วันนี้เราเลยมีเคล็ดลับง่ายๆมาแชร์ให้ทุกคนฟังกัน ไม่ว่าจะเป็นช่าง เจ้าของบ้าน สามารถเอาไปเช็คผนังก่อนทาสี เพื่อให้งานทาสีของคุณง่ายขึ้น
1.ใช้มือลูบผนังที่จะทาสีว่ามีฝุ่นผงติดมือหรือไม่
เป็นวิธีเช็คว่ามีฝุ่นหรือไม่ และสีไม่หมดอายุ ถ้าลูบไปแล้วสีหมดอายุมือคุณจะขาวหรือติดสีนั้นออกมา แปลว่าตัวกาวได้หมดไปแล้ว
แนะนำให้ใช้รองพื้นปูนเก่า เพื่อผงสีที่ติดอยู่ให้ติดกลับเข้าไปใหม่ ถ้าไม่ทาสีรองพื้นปูนเก่าก่อนและทาสีทับเลยจะทำให้สีใหม่ที่ทาไปลอกล่อน
2.ใช้คัตเตอร์กรีดเป็นรูป #
วิธีคือเอาเทปติดตรงรอยกรีด แล้วดึงออก ถ้าสีลอกติดออกมา แสดงว่าสีหมดอายุแล้ว แต่ถ้าทำแล้วสีไม่ติดออกมาแสดงว่าสีเดิมยังแน่นอยู่
วิธีแก้ 1.ขัดทำความสะอาดใช้เกรียงแซะสีที่ลอกออก
2.ทาด้วยรองพื้นปูนเก่า
3.ทาสีทับหน้า
3.เช็คความชื้นของผนังก่อนทาสี
วิธีคือ ใช้พลาสติกใสตัดขนาด 30 ซม.X 30 ซม. แล้วใช้เทปติดไว้บนผนังไม่ให้อากาศออก ทิ้งไว้ 1คืน ถ้ามีหยดน้ำอยู่ภายในถุงแสดงว่าผนังมีความชื้น แต่ถ้าไม่มีหยดน้ำเกาะที่พลาสติกแสดงว่าผนังแห้งไม่มีความชื้นอยู่
สรุปง่ายๆคือ ถ้าไม่มีหยดน้ำแสดงว่าผนังแห้งพร้อมทาสีได้เลย แต่ถ้ามีหยดน้ำแสดงว่าผนังมีความชื้นยังไม่สามารถทาได้ต้องรอไปก่อน
วิธีแก้ สำหรับงานรีบ อยากจะทาสีทับเลย ต้องใช้เป็นรองพื้นประเภทที่มีการกันชื้นสูง เช่น
ทีโอเอ ไฮโดร ควิกไพรเมอร์ TOA Hydro QuickPrimer (สูตรน้ำ)
ทีโอเอ เอ็กตร้า เวท ไพรเมอร์ TOA ExtraWET Primer (สูตรน้ำมัน)
เบเยอร์ เรน ควิก ไพรเมอร์ Beger Rain Quick Primer (สูตรน้ำ)
เบเยอร์ โปร ควิก ไพรเมอร์ Beger Pro Quick B-1900 (สูตรน้ำมัน)
เมื่อเช็คตามวิธีดังกล่าวแล้ว จึงสามารถทาสีได้ตามระบบ คือ
1.เตรียมพื้นผิว 2.ทาสีรองพื้น 3.ทาสีทับหน้า ได้เลยค่ะ